ชาวเชียงใหม่และแรงงานต่างด้าว ต่างตื่นแต่เช้าทำบุญตักบาตรถวายเทียนแด่พระสงฆ์ ขณะที่ ผอ.โรงเรียนบ้านชิแบร แม่ตื่น อมก๋อย เชียงใหม่ นำข้าราชการครู ทหารตำรวจ นักเรียนประชาชนชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง กว่า 200 คนถวายเทียนเนื่องในวันอาสาฬบูชา แด่พระสงฆ์
เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ซึ่งเป็นวันอาสาฬบูชา และเป็นวันสำคัญของชาวไทยที่นับถือพุทธศาสนา นายปวิณ ชำนิประสาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางถวายเทียนเป็นการส่วนตัว ณ วัดเจ็ดยอด ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยภรรยาและคนติดตามไปเพียง 3-4 คนหลังจากนั้น สำหรับบรรยากาศ โดยรวมเช้าวันนี้ ได้มีพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่ ตื่นกันแต่เช้าได้เตรียมข้าวของอาหารแห้ง เพื่อเตรียมใส่บาตรและถวายแด่พระสงฆ์ ซึ่งความเชื่อว่า การทำบุญในวันศีลใหญ่นั้น จะศิริมงคลแก่ชีวิตครอบครัว ทำให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน การประกอบกิจการต่าง ๆ จะเจริญรุ่งเรืองยิ่ง ๆ ขึ้นไป
นอกจากนี้ บรรยากาศโดยทั่วไป ได้มีบรรดาประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติแห่งกันเข้าวัดใหญ่ ๆ และวัดที่ขึ้นชื่อของจังหวัดเชียงใหม่ อาทิ วัดพระธาตุดอยสุเทพ วัดเจ็ดยอด วัดพระสิงห์ วัดเจดีย์หลวง วัดสวนดอกและอนุสาวรีย์ ครูบาศรีวิชัย เต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ขณะที่ วัดกู่เต่า วัดผาบ่อง วัดป่าพร้าว วัดผาบ่อง ซึ่งเต็มไปด้วยบรรดาแรงงานต่างด้าวชาวไทยใหญ่ สัญชาติเมียนมาร์ ที่มาทำงานอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ ต่างแต่งตัวชุดประจำเผ่าของชาวไทยใหญ่ เดินทางทำบุญกันแต่เช้า ทำให้ถนนสายคูเมืองด้านนอกประตูช้างเผือก การจราจรติดขัดอย่างมาก ทั้งนี้ ซึ่งวัดดังกล่าว ที่แรงงานต่างด้าวเข้าไปทำบุญกันนั้น เนื่องจากเจ้าอาวาสเป็นชาวไทยใหญ่ และเป็นวัดดั้งเดิมของชาวไทยใหญ่สร้างมาแต่โบราณอีกด้วย
ขณะเดียวกัน ที่อำเภออมก๋อย จ.เชียงใหม่ นายประเสริฐ สุขสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ โรงเรียนบ้านซิแบร ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ได้นำเหล่าข้าราชการครู ตำรวจ ทหาร ประชรชน และนักเรียนจำนวนเด็กชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงกว่า 200 คน ได้ร่วมกันถวายเทียนพรรษา ณ สำนักสงฆ์ บ้านชิแบร เนื่องจากในวันอาสาฬบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญของพุทธศาสนา
ทั้งนี้ สำนักสงฆ์ บ้านชิแบร ซึ่งเป็นอาคารสำคัญและมีประวัติดังนี้ เนื่องจากเมื่อวันอังคารที่ 1เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2548 สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งได้เสด็จ ณ บ้านชิแบร หมู่ที่ 7 ต.แม่ตื่น ได้ทรงทอดพระเนตร เห็นว่ามีจำนวนบ้านเรือนและประชาชนจำนวนมาก แต่ยังขาดแคลนอาคารเรียนและสำนักสงฆ์ พระองค์พระราชเสาวนีย์ ให้กองทัพภาคที่ 3 ก่อสร้างกุฎิพระสงฆ์จำนวน 4 หลัง และศาลาอีกจำนวน 1 หลัง เพื่อให้พระสงฆ์จะได้มีที่ปฏิบัติธรรมพร้อมกับวันสำคัญทางพุทธศาสนาประชาชนสามารถร่วมพิธีและใช้ศาลาให้เกิดประโยชน์ ส่วนรวมต่อไป
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////


