เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.60 นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ชี้แจงประเด็นการเรียกร้องให้มีมาตรการแก้ไขปัญหาการเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอพพลิเคชั่น สืบเนื่องจากได้มีแฟนเพจ Drama-Addict ได้เผยแพร่คลิป เจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารร่วมกันตรวจสอบจับกุมผู้ที่นำรถยนต์ส่วนตัววิ่งรับส่งผู้โดยสารผ่านแอพพลิเคชัน Uber และ Grab ที่บริเวณท่าอากาศยานเชียงใหม่ ปรากฏว่าได้เกิดเหตุการณ์หนึ่งที่กลุ่มคนขับแท็กซี่ทำการรุมล้อมรถยนต์คันหนึ่งและชี้เป้าให้เจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ตรวจสอบเนื่องจากเชื่อว่าเป็น Uber หรือ Grab ซึ่งปรากฏว่ารถยนต์คันดังกล่าวไม่ใช่ Uber และ Grab เป็นเพียงการขับรถยนต์ส่วนตัวมารับเพื่อนต่างชาติเท่านั้น ทั้งนี้ประชาชนจำนวนมากออกมาแสดงความคิดเห็น และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะเกรงว่าอาจจะส่งผลให้สถานการณ์รุนแรงมากขึ้นได้ในอนาคต
กรมการขนส่งทางบก โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการประชุมหารือร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ ตำรวจภูธรเชียงใหม่ มณฑลทหารบกที่ 33 การท่าอากาศยานเชียงใหม่ ภาคการศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลมารับจ้างอย่างผิดกฎหมาย รวมทั้งสำนักงานขนส่งจังหวัดพร้อมด้วยทหาร ตำรวจ จังหวัดและหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันลงพื้นที่เข้มงวดการบังคับใช้กฎหมาย สร้างความรับรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนใช้บริการรถสาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งเน้นย้ำกับรถสาธารณะในพื้นที่ให้แจ้งเจ้าหน้าที่เมื่อพบเห็นการให้บริการโดยใช้รถยนต์ส่วนบุคคล และกำชับให้งดเว้นพฤติกรรมอันจะก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2560 เป็นการลงพื้นที่บังคับใช้กฎหมายโดยสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับทหาร ตำรวจ และการท่าอากาศยาน โดยเมื่อได้รับแจ้งจากกลุ่มแท็กซี่ว่ามีการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลมาให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบตามแนวทางปกติที่เคยปฏิบัติมาทุกครั้ง เป็นไปตามมาตรการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการรักษาความปลอดภัยโดยทั่วไปตามหลักสากล ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า รถคันดังกล่าวมิได้มีการนำมาใช้บริการในลักษณะรับจ้าง จึงได้แจ้งวัตถุประสงค์ของการตรวจสอบ พร้อมกล่าวขอโทษกับผู้ขับรถและผู้โดยสารด้วยความสุภาพ
ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันเหตุกระทบกระทั่งในลักษณะดังกล่าวอีก สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่จึงได้จัดให้มีการประชุมร่วมโดยมีการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับผู้ประกอบการรถเเท็กซี่ รถบริการสนามบิน รถตู้ปรับอากาศประจำทาง (City Shuttle Bus) เข้าร่วมการประชุม เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 60 โดยได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการรถสาธารณะงดเว้นพฤติกรรมรุมล้อมรถที่ต้องสงสัยว่าเป็นรถ Uber หรือ Grab car เนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ กรณีพบรถยนต์ที่สงสัยให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อทำการตรวจสอบจับกุมและลงโทษผู้ขับรถตามข้อหาความผิดอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ หากตรวจพบพฤติกรรมรุมล้อมรถอีก สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่จะได้พิจารณาลงโทษทั้งผู้ขับรถและผู้ประกอบการอย่างเข้มงวดเช่นกัน นอกจากนี้ การท่าอากาศยานเชียงใหม่จะจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจต่อประชาชนและนักท่องเที่ยว เพื่อทราบถึงการใช้บริการรถสาธารณะที่ได้จัดเตรียมไว้ให้ พร้อมจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ภายในอาคารผู้โดยสารเป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีนต่อไป
กรมการขนส่งทางบก ได้ประชาสัมพันธ์และชี้แจงทางสื่อสาธารณะอย่างต่อเนื่องที่ผ่านมาโดยตลอด ในกรณีการเรียกใช้บริการแท็กซี่หรือรถรับจ้างสาธารณะนั้น ไม่มีข้อกฎหมายห้าม สามารถเรียกรถรับจ้างผ่านแอพพลิเคชั่นได้ แต่สิ่งที่ผิดกฎหมายคือ การนำแอพพลิเคชั่นไปใช้เรียกรถรับจ้างแล้วมาให้บริการที่ผิดกฎหมาย เช่น ใช้รถยนต์ส่วนบุคคล (ป้ายดำ) คนขับรถไม่มีใบอนุญาตขับรถสาธารณะ เก็บอัตราค่าโดยสารไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขประกอบการ เอาเปรียบผู้โดยสาร ฯลฯ เป็นต้น
คณะกรรมการจัดระเบียบรถสาธารณะซึ่งประกอบด้วยกรมการขนส่งทางบก มณฑลทหารบกที่ 11 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร รวมถึงหน่วยทหาร ตำรวจ จังหวัด และหน่วยงานท้องถิ่นในพื้นที่ ดำเนินการจัดระเบียบรถแท็กซี่เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการรถแท็กซี่และแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียน ของผู้ใช้บริการ โดยการควบคุม กำกับ ดูแล บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการรถยนต์รับจ้างไม่ให้กระทำการต่อต้านที่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย และดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเลือกใช้เรียกรถแท็กซี่ผ่านแอพพลิเคชั่นที่ถูกฎหมาย ในด้านการจับกุมและบังคับใช้กฎหมายที่ผ่านมาในทุกพื้นที่ เป็นการดำเนินการตามกฎหมายเมื่อพบการกระทำผิด ทั้งนี้ รวมถึงรถรับจ้างที่มีอยู่ในระบบปัจจุบันที่กระทำความผิดในทุกกรณี โดยมิได้เลือกปฏิบัติ หรือมิได้ทำเพื่อปกป้องประโยชน์ของกลุ่มใดโดยเฉพาะ
แนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน กรมการขนส่งทางบก ได้กำหนดแนวทางในการพัฒนายกระดับมาตรฐานรถแท็กซี่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น มั่นใจ ความปลอดภัย เน้นคุณภาพ และการเข้าถึงการให้บริการตามโครงการ TAXI OK / TAXI VIP รายละเอียดดังนี้
– โครงการ TAXI OK เป็นการยกระดับมาตรฐานการให้บริการรถแท็กซี่ที่อยู่ในระบบปัจจุบัน โดยกำหนดให้แท็กซี่ที่อยู่ในระบบทุกคันต้องติดตั้ง GPS Tracking พร้อมเครื่องบ่งชี้คนขับที่ใช้กับใบขับขี่, กล้อง CCTV (Snap Shot) ปุ่มฉุกเฉินเตือนภัย รถทุกคันตามโรงการจะต้องเชื่อมข้อมูลเข้ากับศูนย์บริหารจัดการเดินรถแท็กซี่ (ศูนย์ GPS) ของกรมการขนส่งทางบก พร้อมออกแบบระบบเรียกใช้บริการด้วย Application ผ่านโทรศัพท์มือถือ เพื่อตอบโจทย์การเข้าถึงการให้บริการ เพิ่มความสะดวก ป้องกันปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสาร การไม่เปิดมิเตอร์ ติดตามพฤติกรรมตลอดการให้บริการ ไม่เอาเปรียบผู้โดยสาร
– โครงการ TAXI VIP กรมการขนส่งทางบกได้จัดทำโครงการ TAXI VIP หรือรถแท็กซี่ ชนิดพิเศษเป็นการเพิ่มทางเลือกในการให้บริการของประชาชน โดยใช้รถที่มีมาตรฐานขนาดตัวรถและสมรรถนะรถที่สูงกว่ารถแท็กซี่ทั่วไป เพิ่มอุปกรณ์ส่วนควบสำหรับให้บริการที่มีความสะดวกสบายมากขึ้น และผู้ประกอบการต้องเป็นนิติบุคคล มีความพร้อมทางธุรกิจ มีแผนการประกอบการแบบมืออาชีพ เป็นการเพิ่มโอกาส เพิ่มทางเลือกให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ
กฎกระทรวงทั้งสองฉบับผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2559 และอยู่ในขั้นตอนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาส่งเรื่องให้กรมการขนส่งทางบก พิจารณายืนยันก่อนส่งให้กระทรวงคมนาคมลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ภายในเดือนมิถุนายน 2560 คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ประมาณเดือนตุลาคม 2560
กระทรวงคมนาคมได้แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณากำหนดแนวทางนำแอพพลิเคชั่นมาใช้กับระบบการขนส่ง (คำสั่งกระทรวงคมนาคม ที่ 206/2559 สั่ง ณ วันที่ 22 กรกฎาคม 2559) ประกอบด้วยผู้แทนจากกระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางบก กรมสรรพากร กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ มณฑลทหารบกที่ 11 กองบัญชาการตำรวจนครบาล และ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งทางบกและจราจร โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการจัดจ้างที่ปรึกษา เพื่อทำการศึกษารูปแบบ แนวทางการแก้ไขปัญหา กรณีการนำรถยนต์ส่วนบุคคลมาให้บริการในรูปแบบรถแท็กซี่ผ่านการให้บริการโดยแอพพลิเคชั่น โดยกำหนดขอบเขตการศึกษา ได้แก่
– ศึกษาผลดี-ผลเสียของการนำรถยนต์ส่วนบุคคลมาให้บริการในรูปแบบรถแท็กซี่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผ่านแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ เพื่อให้ได้แนวทางการแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว ตลอดจนแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ได้รับการยอมรับจากประชาชน
– วิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อระบบแท็กซี่เดิม จากการนำรถยนต์ส่วนบุคคล มาให้บริการในรูปแบบรถแท็กซี่ผ่านแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ และเสนอแนะแนวทางการแก้ไขผลกระทบดังกล่าว
– เสนอแนวทางปรับปรุงกฎหมาย ข้อกำหนด และกฎระเบียบเพื่อให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลง โดยคำนึงถึงประโยชน์สาธารณะและการยอมรับของประชาชน
ซึ่งหากผลการศึกษาดังกล่าวแล้วเสร็จ กรมการขนส่งทางบกจะได้เร่งดำเนินการทำความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ขับรถยนต์รับจ้างสาธารณะ เพื่อจะได้ดำเนินการได้อย่าง ถูกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ลดความขัดแย้งของผู้ให้บริการ และมีทางเลือกให้กับผู้ใช้บริการได้มากยิ่งขึ้น
กรมการขนส่งทางบกได้กำชับคณะทำงานจัดระเบียบรถสาธารณะในทุกจังหวัดซึ่งประกอบด้วยสำนักงานขนส่งจังหวัด ทหาร ตำรวจ และหน่วยงานจังหวัด ให้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความรับรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนได้รับทราบและใช้บริการรถสาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งเน้นย้ำกับรถสาธารณะในพื้นที่ให้แจ้งเจ้าหน้าที่เมื่อพบเห็นการให้บริการโดยใช้รถยนต์ส่วนบุคคล และกำชับให้งดเว้นพฤติกรรมอันจะก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญดังเช่น กรณีเหตุที่เกิดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หรือที่จังหวัดชลบุรี เป็นต้น ซึ่งหากพบว่ามีพฤติกรรมดังกล่าวจะพิจารณาลงโทษขั้นเด็ดขาดทั้งผู้ขับรถและผู้ประกอบการ รวมทั้งติดตามเฝ้าระวังเพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างรถสาธารณะในระบบและรถส่วนบุคคลที่นำมารับจ้างผ่านแอพพลิเคชั่น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการใช้ชีวิตปกติประจำวันของประชาชนในภาพรวมต่อไป
สำหรับโครงการ TAXI OK/ TAXI VIP เมื่อร่างกฎกระทรวงได้ผ่านการพิจารณาโดยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว ก่อนจะมีการประกาศบังคับใช้อย่างเป็นทางการ กระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางบก พร้อมด้วยคณะทำงานจัดระเบียบรถสาธารณะ จะได้ทำการแถลงข่าวประชาสัมพันธ์โครงการดังกล่าว เพื่อสร้างความรับรู้และความเข้าใจในการพัฒนาคุณภาพการให้บริการรถแท็กซี่ให้ประชาชนและผู้เกี่ยวข้องได้รับทราบโดยทั่วกันต่อไป