เป็นการเล่าต่อๆกันมาว่า
พม่ายกกองทัพมาประชิดเมืองเชียงใหม่ เพื่อต้องการยึดเมืองเชียงใหม่ ได้ท้าพนันดำน้ำแข่งกันระหว่างไทยกับพม่า ด้วยพม่าเชื่อว่า คนเชียงใหม่ไม่มีใครดำน้ำเก่ง โดยมีเมืองเชียงใหม่เป็นเดิมพัน ใครขึ้นจากน้ำแม่ปิงก่อนเป็นฝ่ายแพ้ หากไทยแพ้ พม่าจะยึดเมืองเชียงใหม่เป็นเมืองขึ้น หากไทยชนะ พม่าจะยกทัพกลับ พม่าให้ไทยประกาศหาชายชาวเชียงใหม่ ที่ดำน้ำทนดำน้ำเก่งมาแข่งกับพม่า โดยให้เวลาหาผู้กล้าที่ดำน้ำทนดำน้ำอึดภายใน 3 วัน เจ้าหลวงเวียงพิงค์ได้ป่าวประกาศหาคนเก่งมาแข่งดำน้ำ ที่แม่น้ำปิงกับพม่า เมื่อครบ 3 วันก็ยังไม่มีใครอาสามา ในที่สุดเจ้าเมืองเวียงพิงค์ก็ปลงตก เห็นทีต้องยกเมืองเชียงใหม่ให้พม่า พอดีประกาศมาถึงห้างนาของ “ลุงเปียง” ซึ่งอยู่ตามลำพัง แกคิดว่า อยู่ไปวันๆก็รอวันตายเท่านั้น จึงคิดตอบแทนบุญคุณของแผ่นดิน จึงรับอาสาประลองดำน้ำครั้งนี้ ทั้งๆที่แกดำน้ำไม่เก่งเลย
เมื่อวันแข่งขันมาถึง มีทั้งเจ้าหลวงพม่าและไทยเป็นสักขีพยาน ประชาชนคนเมืองมาชมกันมากมาย ที่เดิมพันด้วยเมืองเชียงใหม่ มีการตอกเสาในน้ำแม่ปิง 2 เสา ให้ผู้แข่งขันทั้งสองดำน้ำลงไปกอดเสาไว้คนละต้น ใครขึ้นมาก่อนเป็นผู้แพ้ “ปู่เปียง” ได้นำผ้าขะม้าลงไปด้วย แกได้เอาผ้าขะม้ามัดตัวติดกับเสาไว้ ทำให้อยู่ในน้ำได้นานกว่าพม่า พม่าโผล่ขึ้นมาก่อนเป็นฝ่ายแพ้ ได้ยกทัพกลับตามสัญญา เจ้าหลวงเวียงพิงค์รอ “ปู่เปียง”ขึ้นจากน้ำ จนเวลาผ่านไป 1 วัน จึงให้คนดำน้ำลงไปค้นหา ปรากฏว่า “ปู่เปียง” ได้เสียชีวิตแล้ว โดยแกเอาผ้าขะม้าผูกตัวติดกับเสาไว้ เจ้าผู้ครองนครเวียงพิงค์หรือเชียงใหม่ในปัจจุบัน จึงได้สร้างเจดีย์ขึ้นบริเวณที่แข่งดำน้ำนั้น เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ “ลุงเปียง” ชื่อว่า “เจดีย์กิ่ว” หรือ “เจดีย์ขาว”
“เจดีย์กิ่ว”
“เจดีย์กิ่ว” มีเรื่องเล่าต่ออีกว่า บริเวณฝั่งแม่น้ำปิงตรง “เจดีย์กิ่ว” น้ำปิงกัดเซาะเข้าจนเป็นคอคอด ซึ่งภาษาพื้นเมืองเรียกว่า “กิ่ว” ตรงนี้เป็นจุดที่มีน้ำวน น้ำเชี่ยวและลึกมาก สามารถดูดซุงต้นใหญ่ๆหายไปได้ และมีผู้เสียชีวิตที่บริเวณนี้ทุกปี ใต้ฐานเจดีย์กิ่ว มีอุโมงค์ทอดยาวไปโผล่ที่วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร บ้างว่าอุโมงค์นี้ทะลุไปถึงถ้ำเชียงดาว จริงเท็จเพียงใด ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้จนบัดนี้.
..ขอบคุณข้อมูล-ภาพ ประกอบการเขียนจากแหล่งผู้รู้ทุกท่าน…
ทีมงาน CMSKY NEWS