แม่ทัพภาคที่.3 เผย อำเภอ อ.พบพระ ท่าสองยาง อมก๋อย พื้นที่ปลูกฝิ่นร้อยละ 90% ของประเทศไทย ขณะที่ อ.อมก๋อยยังครองแชมป์ที่ปลูกฝิ่นอันดับหนึ่งของประเทศ โดยพบกว่า 180 หมู่บ้านยังรุนแรง
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 22 กันยายน 2559 ที่โรงแรมกรีนเลค รีสอร์ท ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พลโทสมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล แม่ทัพภาคที่.3 เป็นประธานประชุมแบบบูรณาการณ์การแก้ไขปัญหาความมั่นคงพื้นที่ปลูกฝิ่นของภาคเหนือ (อมก๋อย ) โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ประกอบด้วย นายปวิณ ชำนิประศาสตร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พลตรีโกศล ประทุมชาติ ผบ.มทบ.33 พล.ต.ต.มนตรี สัมบุญญานนท์ ผบก.ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่โครงการหลวง ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวนกว่า 100 คน
แม่ทัพภาคที่.3 เปิดเผยว่า จากสาถนการณ์พื้นที่ปลูกฝิ่นของภาคเหนือปัจจุบันพบว่ามีอยู่ 3 อำเภอที่ยังปลูกฝิ่นมากที่สุด ประกอบด้วย อ.พบพระ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก และ อ.อมก๋อย ของจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นทั้ง 3 อำเภอมีพื้นที่ปลูกฝิ่นรวมทั้งหมดประมาณร้อยละ 90 ของพื้นที่ปลูกทั่วประเทศ ซึ่งถือว่ามากที่สุดของประเทศไทย สำหรับจังหวัดเชียงใหม่นั้น อ.อมก๋อย ยังครองแชมป์สำหรับพื้นที่ปลูกฝิ่นมากที่สุด โดยมี 250 หมู่บ้านเป็นพื้นที่เสี่ยง และ 180 หมู่บ้านยังเป็นพื้นที่รุนแรง หรือสีแดง ประชาชนในหมู่บ้านส่วนใหญ่ยังยึดอาชีพการปลูกฝิ่นเป็นหลัก
สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาพืชเสพติดทางกองทัพภาคที่.3 ได้กำหนดเป็นแผนแม่บทและความมั่นคงเน้นที่พื้นที่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ในระยะเวลา 5 ปี เริ่มปี 2560-2564 โดยกำหนดยุทธศาสตร์ในการทำงานแบบบูรณาการณ์ ทั้งทหาร ตำรวจ ปกครอง เกษตร โครงการหลวง ในส่วนของทหารเน้นการป้องกันปราบปราม นำผู้เสพไปบำบัด ทำลายแหล่งพื้นที่ปลูกฝิ่นให้ลดลงให้ได้ผลตามกรอบที่กำหนด ตำรวจทำหน้าที่สืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งผู้ค้ารายเล็กจนถึงรายใหญ่ ตามลำดับ ส่วนเกษตร และโครงการหลวง นั้นเน้นการส่งเสริมอาชีพ เพื่อปลูกพืชเศรษฐกิจทดแทนฝิ่น พร้อมหาแหล่งตลาดรองรับผลผลิตต่าง ๆ จากชาวบ้านเหล่านั้นต่อไป
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน อ.อมก๋อย มีพื้นที่ปลูกฝิ่นมากที่สุดและมี 285 หมู่บ้านเป็นพื้นที่ปลูกฝิ่น แต่บ้านที่แรงรุนมากที่สุดจำนวน 180 หมู่บ้านที่ยังปลูกฝิ่นเป็นอาชีพหลัก นอกจากนี้ทางกองทัพภาคที่.3 เน้นเรื่องการข่าวมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเบื้องหลังการปลูกฝิ่นในพื้นที่มากและใช้เครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัย ไม่ว่าสปริงเกอร์ สายยาง ท่อประปา ที่ต่อจากภูเขามายังไร่ฝิ่นนั้น เชื่อว่ามีนายทุนหนุนหลังประชาชนในพื้นที่อย่างแน่นอน เมื่อมีการข่าวชัดเจนแน่นอน เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมนายทุนเหล่านี้เพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
วชรพงศ์ มีทรัพย์กว้าง / รายงาน