ตำรวจภาค 5 ขยายผลยาเสพติด ตามยึดทรัพย์ต่อเนื่อง ถึงภาคกลาง ได้ทรัพย์สินมากถึง 100 ล้านบาท จับกุมยาเสพติด อาวุธปืนแลกยาบ้าในท้องที่จังหวัดเชียงใหม่ ขยายผลการจับกุมตั้งด่านสกัดติดตามขบวนการยาเสพติด ได้รายใหญ่ที่ อ.แม่พริก จ.ลำปาง และสุดท้ายตามยึดทรัพย์กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดได้ในที่สุด
ตำรวจภาค 5 ขยายผลติดตามยึดทรัพย์ขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ระดับประเทศ กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดแลกอาวุธปืน โดยเมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 19 กย 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ประหยัชว์ บุญศรี รอง ผบช.ภาค 5 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 5 ประสานกับทาง เลขาธิการ ป.ป.ส. เข้าตรวจยึดทรัพย์สินของขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ระดับประเทศ โดยกำลังทั้งหมดได้เข้าไปยังบริษัท ณัฐวัฒน์ การโยธา 2015 ตั้งอยู่เลขที่ 326 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธ้ญบุรี จ.ปทุมธานี โดยได้เข้าตรวรจยึดทรัพย์สินของขบวนการกลุ่มค้ายาเสพติดรายใหญ่ จากการขยายผลทางภาคเหนือลงสู่ภาคกลาง ยึดทรัพย์สินของขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ทั้งหมดมูลค่าเบื้องติน 100 ล้านบาท ได้ทรัพย์สินจำนวนหลายรายการทั้งบ้านพร้อมที่ดิน ,รถยนต์หรู เรือเจ๊ตสกี ทองรูปพรรณ ฯลฯ
พล.ต.ต.ประหยัชว์ บุญศรี รอง ผบช.ภาค 5 ได้เปิดเผยว่า เครือข่ายขยายผลคดีของนายภูมิพิพัฒน์ อินทร์ประดิษฐ์ กลุ่มขบวนการยาบ้าแลกปืน สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 มค 59 เวลาประมาณ 22.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.5 ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายภูมิพิพัฒน์ หรือชาย อินทร์ประดิษฐ์ อายุ 41 ปี บ้านเดิมเลขที่ 141 หมู่ 15 ต.สันทราย อ.ฝางเชียงใหม่ พร้อมของกลางยาบ้า 398,000 เม้ด ไอซ์ 3.2 กก. โดยกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายฯ “เหตุเกิดที่บริเวณทางเข้า โรงแรมบิส รีสอร์ท ถ.เชียงใหม่-ลำปาง ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ส่งดำเนินคดี สภ.ช้างเผือก และจากการขยายผลทราบว่าเป็นขบวนการนำยาเสพติดไปแลกอาวุธปืนที่ท้องที่ จ.ปทุมธานี จึงได้ขออนุญาติครอบครองยาเสพติดภายใต้การควบคุม จับกุมตัวนายประทีป หรือชีพ สร้อยทรัพย์ อายุ 43 ปี บ้านเดิมเลขที่ 41/1 หมู่ 1 ต.ทรัพย์ไม้แดง อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ กับพวกรวม 9 นาย พร้อมอาวุธปืน M16 จำนวน 5 กระบอก และอาวุธปืนเล็กยาว AK-47 จำนวน 5 กระบอก โดยกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และร่วมกันมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาติให้ได้ไว้ในความครองครองฯ เหตุเกิดที่พื้นที่ จ.เชียงใหม่ ต่อเนื่องกับ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงระหว่างวันที่ 3-6 มค 59 ต่อเนื่องกัน ภายหลังได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหายังท้องที่ สภ คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ต่อมาจากการสืบสวนสอบสวนขยายผลเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายนี้ โดยการวิเคราะห์ข้อมุลการติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์ และเส้นทางการเงินต่าง ๆ พบเป็นขบวนการใหญ่ เชื่อมโยงกับเครื่อข่ายนายวีรพล แซ่มู่ อยู่บ้านเลขที่ 119 หมู่ 6 ต.เวียงกาหลง จ.เชียงราย ซึ่งพักอยู่ที่หมู่บ้านแกน้อย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ โดยเป็นตัวกลางคอยประสานงานกับฝ่ายเจ้าของยาเสพติดซึ่งอยู่ในประะเทศพม่า ในการลำเลียงยาสเตพิดจากชายแดนภาคเหนือลงไปสู่พื้นที่ตอนในและภาคใต้ และมีการว่าจ้างคนชนเผ่าในพื้นที่ เป็นผุ้ลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดนเข้ามา มีนายสมชาย เลาเชิ้น ร่วมอยู่ในขบวนการ และร่วมเป็นผู้จัดหาผู้ลำเลียงยาเสพติดส่งต่อไปยัง จ.ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา และใกล้เคียง เพื่อส่งต่อให้กับผู้สั่งซื้อเป็นทอด ๆ ไป ซึ่งกระทำมาแล้วหลายครั้ง
โดยในการปฏิบัติการจะมีขบวนการรับจ้างลำเลียงขนยาเสพติด ใช้วิธีการลำเลียงซุกซ่อนไปกับรถยนต์บรรทุกพืชผลทางการเกษตรเพื่ออำพราง ซึ่งฝ่ายสืบสวนส บก.สส.ภ.5 ได้เฝ้าติดตามพฤติการณ์มาโดยตลอด กระทั่งเมื่อช่วงวันที่ 30 เม.ย. -1 พค 59 ได้สืบทราบมาว่านายฐิติวัฒน์ หนูสา และ นางสาวสุนัน สารพันธ์ สามีภรรยา กับนายประกิจ พัวพรสวรรค์ และนางนงลักษณ์ สารพันธ์ (สามีภรรยา) มีพฤติการณ์ในการรับจ้างขนลำเลียงยาเสพติด จากกลุ่มของนายสมชาย เลาเซิ้น และนายวีรพล แซ่มู่ ได้ว่าจ้างบุคคลทั้งสองกับ นางสาวสุนันฯ จะเป็นผู้ว่าจ้างนายประกิจฯ กับนางนงลักษณ์ฯ อีกทอดหนึ่ง โดยครั้งนี้ ได้ว่าจ้างบุคคลทั้งสองให้ขับรถขนยาเสพติดจาก จ.เชียงใหม่ ไปส่งที่ จว.พระนครศรีอยุธยา ทางเจ้าหน้าที่จึงเฝ้าสะกดติดตามทุกระยะ พร้อมทั้งได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ด่านตรวจแม่พริก สภ.แม่พริก จ.ลำปาง ให้ทำการสังเกตุและตรวจค้นรถยนต์ของนายประกิจฯ
และเมื่อวันที่ 1 พค 59 เวลาประมาณ 15.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจแม่พริก ได้ทำการตรวจค้นรถยนต์บรรทุกกะหล่ำ ของนายประกิจฯ ขณะขับถึงด่านตรวจ ผลการตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 218,000 เม็ด ที่ซุกซ่อนมาในรถ และจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการขนลำเลียงยาเสพติดได้ 4 คน คือ นายประกิจ พัวพรสวรรค์ คนขับรถ นางนงลักษณ์ สารพันธ์ ภรรยาของนายประกิจ ผู้ว่าจ้างและช่วยลำเลียงยาเสพติดขึ้นรถ นางสาวสุนัน สารพันธ์ ภรรยานายฐิติวัฒน์ /ลูกนางนงลักษณ์ฯ) ผู้ช่วยลำเลียงยาเสพติดขึ้นรถ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้กล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายฯ ชั้นจับกุมฯ ผู้ต้องหาต่างให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
จากการสืบสวนขยายผลทราบว่ายาบ้าจำนวนดังกล่าว ยังมีผู้ร่วมขบวนการสั่งซื้อ คือนายณัฐวัฒน์ เลิศอริยะธนากุล และนายเจริญ ดาวดวงสุข ซึ่งจะรอรับยาอยู่แถว จ.พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และใกล้เคียง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการขยายผล และสามารถจับกุมตัวนายเจริญ ดาวดวงสุขได้ ส่วนนายณัฐวัฒน์ เลิศอริยธนากุล หลบหนีไปได้
ต่อมาทางพนักงานสอบสวนได้ขอนุมัติต่อเลขา ป.ป.ส ขอนุมัติจับกุมผุ้ร่วมขบวนการ ตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ พ.ศ. 2534 ม.6 ม.8 และศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ร่วมขบวนการจำนวน 4 คน คือ นายวีรพล แซ่มู่ ตามหมายจับ จ.ลำปาง ที่ 133/2559 ลงวันที่ 4 สค 59 นายสมชาย เลาเซิ้น หมายจับศาล จ.ลำปาง ที่ 134/2559 ลงวันที 4 สค 59 นายณัฐวัฒน์ เลิศอริยะธนากุล หมายจับศาล จ.ลำปาง ที่ 135./2559 ลงวันที่ 4 สค 59 นายเจริญ ดาวดวงสุข หมายจับศาล จ.ลำปาง ที่ 136/2559 ลงวันที 4 สค 59 ในความผิดฐาน “สมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเหตุที่ได้สมคบกันนั้น”
ต่อมาจากการขยายผลและวิเคราะห์การใช้โทรศัพท์ของผู้ต้องหาทั้ง 4 คน และตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่าในวันเกิดเหตุ นายณัฐวัฒน์ เลิศอริยะธนากุล ได้มีการติดต่อกับ นางสาวสุนันท์ สารพันธ์ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ ที่อยู่ในขบวนการรับจ้างลำเลียงขนยาเสพติดของกลาง ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการขยายผลต่อไปยังเครือข่ายผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีก และได้ขออนุมัติต่อเลขา ป.ป.ส. ขอนุมัติจับกมุผุ้ต้องหาเกี่ยวข้องกกับยาเสพติดและได้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เรพาะเหตุที่ได้สมคบกันนั้น และศาลได้อนุมัติหมายจับเพิ่มเติม จำนวน 3 คน คือ นางสาววราภรณ์ เลิศอริยะธนากุล ภรรยาของนายณัฐวัฒน์ เลิศอริยธนากุล นางสาวณัชชา ภัทรจิรประภา ลูกพี่ลูกน้องนายณัฐวัฒน์ฯ น้องสาวนายเจริญ ดาวดวงสุล นายสมพร ศรีสร้างคอม ผู้ดูแลทรัพย์สินให้นายณัฐวัฒน์ฯ
และในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังทั้งของตำรวจภาค 5 ของ ป.ป.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้ายึดทรัพย์สินของนายณัฐวัฒน์ เลิศอริยะธนากุล ทั้งหมด ที่ จ.ปทุมธานี มูลค่า 100 ล้านบาท ในเบื้องต้น
/////////////
วชรพงษ์ มีทรัพย์กว้าง






