
วันที่ 2 ก.ย. 59 ที่หน้าที่ว่าการอำเภอแม่ทา จ.ลำพูน ได้มีชาวบ้านจากบ้านห้วยเดื่อ หมู่ 9 ต.ทาขุมเงิน อ.แม่ทา จ.ลำพูน กว่า 100 คน เดินทางมาประท้วงขับไล่ นาย เสน่ห์ จี้สละ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.ทาขุมเงิน อ.แม่ทา จ.ลำพูน โดยมี นาง บัวลอย หมื่นจี้ อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 13 หมู่ 9 ต.ทาขุมเงิน อ.แม่ทา จ.ลำพูน อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และนายทองเกิด อะกะเรือน อายุ 61 ปี บ้านเลขที่ 47 หมู่ 9 ต.ทาขุมเงิน อ.แม่ทา จ.ลำพูน เป็นแกนนำชาวบ้าน โดยจะขอเข้าพบกับนายอำเภอ แต่ทางนายอำเภอติดภาระกิจ จึงมอบหมายให้ นาย ประกอบ ยอดยา ปลัดอาวุโส มาพบ พร้อมกับ พ.ท.ประสิทธิ์ แก้วกำเนิดหัวหน้ากองกำลังรักษาความสงบ กรมทหารราบที่ 7 จ.ลำพูน
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้เชิญชาวบ้านมาพบปะพูดคุยกันที่ห้องประชุมของอำเภอ เพื่อสอบถามหาสาเหตุที่มาที่ไปในการขับไล่ผู้ใหญ่บ้านในครั้งนี้ ซึ่ง นางบัวลอย หมื่นจี้ อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า สาเหตุที่เดินทางมายื่นหนังสือเพื่อขับไล่ นายเสน่ห์ จี้สละ ผู้ใหญ่บ้านคนปัจจุบันเนื่องจากที่ผ่านมา นายเสน่ห์ นั้น ทำงานไม่โปร่งใสหลายเรื่อง โดยเฉพาะเงินที่ได้จากการเปิดบ่อปลา ที่ยอดเงินไม่ตรงกับความเป็นจริง อีกทั้ง มีพฤติกรรมข่มขู่ลูกบ้าน อีกทั้งยังส่อไปในทางทุจริตงบประมาณ เอสเอ็มแอล ปี พ.ศ. 2553 จำนวนเงิน 225,000 บาท เดิมทีตกลงกันว่าจะซื้อรถไถพรวนดิน หลังจากได้รับอนุมัติเงินแล้วกลับนำไปให้คนอื่นยืมเงินแทน ไม่ได้นำไปซื้อวัว หรือรับซื้อวัวตามที่ตกลงกัน และเรื่องดังกล่าวเคยยื่นหนังสือถึงทางอำเภอแล้วเรื่องกลับเงียบหาย จึงเดินทางมารวมตัวกันในวันนี้เพื่อขับไล่สถานเดียว
ขณะเดียวกันทางด้าน นายประกอบ ยอดยา ปลัดอาวุโส ได้ชี้แจงให้ชาวบ้านในที่ประชุมว่า เรื่องดังกล่าวชาวบ้านสามารถทำได้ด้วยการล่ารายชื่อของชาวบ้าน ที่มีอยู่ประมาณ 500 กว่าคน โดยหากมีรายชื่อเกินครึ่งหนึ่งของชาวบ้านที่ไม่เอา ผู้ใหญ่บ้านก็สามารถดำเนินการตามขั้นตอนได้ ซึ่งตอนนี้ทราบว่า มีรายชื่อที่เสนอมาถึงทางอำเภอ ยังไม่ถึงครึ่ง ก็ขอให้ดำเนินการกันตามระเบียบและให้ถูกต้องหากมีรายชื่อถูกต้องตามหลักฐานก็จะให้ทางผู้ใหญ่บ้านรับทราบตามขั้นตอน
ขณะเดียวกัน ทาง นายเสน่ห์ จี้สละ ผู้ใหญ่บ้าน ได้เดินทางมาพบกับแกนนำ และทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวแทนชาวบ้านไปพบปะพูดคุยกันที่ห้องประชุม โดยในที่ประชุม ทางฝ่าย นางบัวลายก็เสนอให้ลาออก อย่างเดียว ส่วนทางด้าน นายเสน่ห์ ผู้ใหญ่บ้าน ได้กล่าวว่า หากจะให้ลาออกนั้น ก็สามารถทำได้ แต่ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่จะเอาเสียงส่วนน้อยมาขับไล่ตนนั้นคงทำไม่ได้ จากนี้ไป หากทางชาวบ้านที่มีรายชื่อเกิน 40 เปอร์เซ็นต์ ไม่เห็นด้วยจะให้ลาออกหากตรวจสอบความถูกต้องแล้ว ตนพร้อมที่จะลาออกทันที
นายเสน่ห์ จี้สละ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนยอมรับว่าทำงานทุ่มเทเพื่อให้หมู่บ้านนั้นมีความเจริญและขอยืนยันเรื่องที่กล่าวอ้างมาทั้งหมด ไม่เป็นความจริง ตนทำงานตรงไปตรงมาสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งต้นเหตุมันเกิดจาก เรื่องเงินเปิดอ่างโครงการพระราชดำริ ให้มีการตกปลา โดยเก็บค่าตกปลา ได้เงิน 1 แสนกว่าบาท และให้นางบัวลอย ตอนนั้นเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เป็นผู้ถือเงิน แต่เมื่อนำเงินมาส่งให้กับตนเงินไม่ถึงแสนกว่าบาท และมากล่าวหาตนนั้นไม่ถูกต้อง จึงเป็นที่มาของต้นเรื่องทั้งหมด เมื่อมีปัญหาหลายอย่างจึงปิดอ่างตกปลา ก็สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มบุคคล ที่ไม่ชอบตน จึงพยายามจะล้มล้างตลอด อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากพูดถึงเรื่องเดิม หากมีการล่ารายชื่อถอดตน 40 เปอร์เว็นต์ ตนจะขอยุติและลาออกทันที นายเสน่ห์กล่าว.
