วันนี้ ( 4 ก.พ.2557) ผู้แทนสภาพลเมืองเชียงใหม่ หนังหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ทวงถามการใช้ประโยชน์พื้นที่สาธารณะกลางเมืองเชียงใหม่ ที่เคยเป็นทัณฑสถานหญิงเดิมและย้ายออกไป โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้มีการเปิดสภาพลเมือง ครั้งที่ ๒ วาระ ข่วงหลวง-เวียงแก้ว ณ พุทธสถาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายชำนาญ จันทร์เรือง นางเสาวคนธ์ ศรีบุญเรือง เครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เจียงใหม่และนางพรรณงาม สมณา เครือข่ายแม่ญิง เชียงใหม่ ได้ขอเปิดสภาพลเมือง เพื่อให้ประชาชน หน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบการใช้ประโยชน์พื้นที่กลางเมืองเชียงใหม่ (บริเวณทัณฑสถานหญิงเดิม ) หารือถึงแนวทางการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ดังกล่าว โดยมีนักวิชาการด้านต่างๆ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่เพื่อพิจารณา และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้มอบหมายให้นายอดิศร กำเนิดศิริ รองผู้ว่าราชการเชียงใหม่ เป็นผู้แทนให้ข้อมูลและรับฟังข้อเสนอจากประชาชนในการเปิดสภาพลเมือง ดังกล่าว หลังการเปิดสภาพลเมืองสำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการการรับฟังความคิดเห็น และการให้ประชาชนมีส่วนร่วมโดยการสนับสนุนโครงการประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเห็นแนวคิดการพัฒนาข่วงหลวงเวียงแก้ว โดยสำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งมีกระบวนการในการรับฟังอย่างกว้างขวาง และสภาพลเมืองได้นำข้อเสนอการใช้ประโยชน์พื้นที่ดังกล่าวที่ได้จากการเปิดสภาพลเมืองมอบให้แก่สำนักบริการวิชาการ ซึ่งได้มีข้อสรุปคือ 1.ด้านการดำเนินการรื้อถอน มีความเห็นหลักๆ ที่ไม่สอดคล้องกัน 2ความเห็น คือ กลุ่มแรก ให้รื้ออาคารและสิ่งก่อสร้างออกทั้งหมด กลุ่มที่สองเห็นว่า ควรเก็บอาคารคุกไว้บางอาคาร ทว่าทั้งสองความเห็นต่างมีความเห็นร่วมกันคือ ควรทำการขุดค้น หรือทำสิ่งใดเพื่อเก็บหลักฐานทางประวัติศาสตร์ก่อน 2. ด้านการขุดค้นทางโบราณคดี ส่วนใหญ่เห็นว่า ควรใช้เทคโนโลยีช่วยในการจุดสำรวจระยะแรก และควรให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมประวัติศาสตร์ครั้งนี้ด้วย 3.รูปแบบการจัดสรรพื้นที่ ปรับพื้นที่ให้เป็นพื้นที่สีเขียว ที่มีลาน หรือข่วงสาธารณะ สามารถใช้ทำกิจกรรมได้หลากหลาย ใช้พื้นที่ได้ทุกเพศทุกวัยทุกศาสนา เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย และเป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม ระบบนิเวศวิทยากลางเมือง ด้วยการปลูกต้นไม้ที่เป็นไม้พื้นถิ่นไว้รอบๆ เพื่อให้เกิดความร่มรื่น ใช้พื้นที่บางส่วนเป็นพิพิธภัณฑ์ บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเมืองเชียงใหม่ ซึ่งความเห็นนี้สอดคล้องกับการศึกษาของคณะทำงานรับฟังความคิดเห็นต่อการพัฒนาข่วงหลวงเวียงแก้ว เมื่อปีพศ. 2551 4.การมีส่วนร่วมของชุมชน ให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาพื้นที่ด้วยการเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ หรือคณะทำงานภาคประชาชน ร่วมกับหน่วยงานหลักตั้งแต่เริ่มดำเนินการ และการดำเนินการใดๆ ควรเป็นการสร้างเพื่อการใช้ประโยชน์ของคนเชียงใหม่เป็นหลัก มิใช่นักท่องเที่ยว 5.การดำเนินการประกวดแบบข่วงหลวงเวียงแก้ว พร้อมแนวคิดการบริหารจัดการ โดยนำผลสรุปจากการสำรวจความความคิดเห็นที่ได้จากการศึกษามากำหนดเป้นกรอบแนวคิดในการออกแบบ และให้ประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นตัดสินใจร่วมกับคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และศิลปินแห่งชาติในสาขาที่เกี่ยวข้อง 6.จัดทำสื่อกลาง เพื่อการสื่อสารและประชาสัมพันธ์การดำเนินการ “ข่วงหลวงเวียงแก้ว” เพื่อเป็นการติดตามความคืบหน้า ผลักดัน และสนับสนุนให้การพัฒนาพื้นที่ ทัณฑสถานหญิงดำเนินต่อไปตามแนวทางที่ได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนมา คณะทำงานสภาพลเมือง และพลเมืองผู้สนใจเรื่องการพัฒนาพื้นที่ฯ ใคร่ขอให้ทางจังหวัด ได้ชี้แจงแนวทาง และขั้นตอนการดำเนินการต่อในการพัฒนาพื้นที่ทัณฑสถานหญิงเดิมต่อไปให้สาธารณะทราบ ผู้แทนสภาพลเมืองซึ่งทำหนังสือทวงถามผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ระบุว่า เนื่องจากขณะนี้ มีกระแสข่าวการดำเนินงานของสำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ ในพื้นที่สาธารณะดังกล่าว ซึ่งไม่มีความชัดเจนว่าจะทำตามข้อเสนอที่สอดคล้องกับสำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยทำหรือไม่ ชุมชนบริเวณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพื้นที่สาธารณะดังกล่าว จึงขอให้สำนักงานจังหวัด ได้ชี้แจงความคืบหน้าในการดำเนินการ ให้แก่ประชาชนได้รับทราบ รวมทั้งรับฟังข้อคิดเห็นของประชาชน โดยขอให้การชี้แจงเป็นในรูปแบบ การจัดประชุมเพื่อหารือร่วมกัน ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมโทร 086-6713700
ศักดิ์สิทธิ์ มีทรัพย์กว้าง
ทีมข่าว CMSKY NEWS รายงาน