สวนสัตว์เชียงใหม่เฮ! “จิงโจ้แดง” ตัวที่ 3 โผล่หัวออกมาจากถุงหน้าท้องแม่แล้ววันนี้ หลังจากอยู่ในถุงหน้าท้องของแม่มาแล้วกว่า 6 เดือนกว่าแล้ว เบื้องต้นยังไม่ทราบเพศ
วันนี้ 13 มกราคม 2559 สวนสัตว์เชียงใหม่ได้สมาชิกใหม่เป็นลูกจิงโจ้แดง ยังไม่ทราบเพศ เกิดจากแม่ชื่อ “คุณนาย” อายุ 11 ปี พ่อชื่อ พร้อมพนธ์ อายุ 4 ปี ได้ออกลูกออกมาเป็นตัวที่ 3 แล้ว หลังจากที่ได้เกิดลูกตัวแรกมาแล้ว 1 ตัวชื่อผัดกาด เพศเมีย ปัจจุบันอายุ 1 ปี ส่วนตัวที่ 2 ได้ตายไป ตอนนี้ได้ออกลูกตัวที่ 3 เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2558 โดยได้ให้ลูกซ่อนตัวอยู่ในถุงหน้าท้องของแม่มาแล้วกว่า 6 เดือน วันนี้ได้โผล่หัวออกมาแล้ว พร้อมที่จะออกมาอยู่ข้างนอกแล้ว และให้นักท่องเที่ยวได้ชมแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถตรวจสอบเพศได้ จากการสังเกตเบื้องต้นพบว่ามีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี
โดยปัจจุบันนี้สวนสัตว์เชียงใหม่มีจิงโจ้แดงตัวที่ 4 หลังจากก่อนหน้านี้มี 3 ตัว คือ “คุณนาย” เพศเมีย อายุ 11 ปี และ “พร้อมพนธ์” เพศผู้ อายุ 4 ปี ซึ่งจากนี้สวนสัตว์เชียงใหม่จะมีการจัดประกวดตั้งชื่อลูกจิงโจ้แดงตัวนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมจิงโจ้ได้ที่บริเวณส่วนจัดแสดงจิงโจ้แดงได้ทุกวัน
สำหรับจิงโจ้แดง เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในอันดับสัตว์มีกระเป๋าหน้าท้องชนิดหนึ่งจำพวก จิงโจ้ โดยเป็นสัตว์ที่มีกระเป๋าหน้าท้องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่ปัจจุบันยังคง ดำรงเผ่าพันธุ์อยู่ ถือกำเนิดขึ้นมาในออสเตรเลียราว 1 ล้านปีก่อน มีความสูงประมาณ 75-140 เซนติเมตร หางยาว 65-100 เซนติเมตร น้ำหนักเต็มที่ประมาณ 17-85 กิโลกรัม อายุขัยโดยเฉลี่ย 12-18 ปี
แหล่งอาศัยพบกระจายพันธุ์อยู่ทั่วประเทศออสเตรเลีย สถานที่อยู่อาศัยคือ ทุ่งหญ้าโล่ง และทะเลทราย เพราะอาหารหลักคือหญ้า นอกจากนี้ยังกินใบไม้และไม้พุ่มขนาดเล็กบางชนิดได้ด้วย โดยจิงโจ้แดงอยู่รวมกันเป็นฝูง มีตัวผู้เป็นจ่าฝูง นอนพักผ่อนในเวลากลางวันและหากินในเวลากลางคืน ส่วนการขยายพันธุ์ ลูกจิงโจ้แรกเกิดที่ยังไม่มีขน และต้องคลานไปยังเต้านมแม่เพื่อดูดนมเรียกกันว่า “โจอี้” (Joey) เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุได้ 2 ปี มีระยะเวลาตั้งท้องนาน 33 วัน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว
ทั้งนี้ ลูกจิงโจ้ที่เพิ่งออกมาลำตัวยาว 2.5-4 เซนติเมตร น้ำหนัก 0.5-1 กรัม ไม่มีขน เมื่อคลอดออกมาจะคลานเข้าไปอยู่ในถุงหน้าท้องของแม่เพื่อดูดนมและหลบซ่อน ศัตรู พออายุได้ 8 เดือนจึงออกมาหากินข้างนอกและกลับเข้าถุงหน้าท้องเป็นครั้งคราวด้วยการเอา ส่วนหัวมุดเข้าไปก่อน ปล่อยให้ส่วนหางและขาหลังโผล่อยู่ด้านนอก จากนั้นจึงจะม้วนตัวในถุงหน้าท้องเพื่อโผล่แต่หัวออกมาข้างนอก
