กองพลทหารราบที่ ๗ ( ณ ทุ่งยั้งทัพ ) จัดผ้าป่า เพื่อเฉลิมพระราชบารมีเพื่อจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช องค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย.เพื่อให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่าได้สักการะบูชา ตลอดจนเป็นแหล่งเรียนรู้ แก่นักเรียน นักศึกษา และแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อันมีคุณค่ายิ่งยืนนานสืบไป
เมื่อกล่าวถึงตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช คนไทยทุกหมู่เหล่า ได้เทิดทูนและรำลึกถึงพระราชภารกิจในการเป็นนักรบแถวหน้าที่ทรงสามารถกอบกู้เอกราชราชอาณาจักรสยามจนมาเป็นประเทศไทยปัจจุบัน ในปี พ.ศ.๒๑๔๘ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระมหาวีรกษัตริย์ไทยผู้ทรงเป็นกษัตริย์นักรบที่ปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าเทิดทูนบูชายิ่ง ได้ยกทัพหลวงจากกรุงศรีอยุธยาทั้งพลช้าง พลม้า และพลราบ จำนวนกว่า ๑๐๐,๐๐๐ นายเพื่อเข้าตีต่อกรุงอังวะ ซึ่งในขณะนั้นพระเจ้ากรุงอังวะได้แผ่อำนาจบารมี และอิทธิพลทางทหารเข้าสู่หัวเมืองแถบลุ่มน้ำสาละวิน คุกคามเมืองนาย และเมืองแสนหวีซึ่งเป็นเมืองลูกของอาณาจักรล้านนา และเป็นเมืองขอบขัณฑสีมาของกรุงศรีอยุธยาทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องปราม และป้องกันการแผ่อิทธิพลของพระเจ้าอังวะที่จะมีมาถึงเมืองเชียงใหม่ และกรุงศรีอยุธยาในที่สุด และยากที่จะยับยั้งได้โดยง่ายหากปล่อยปละละเลยไว้ ครั้งนั้นสมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ทรงหยุดพักกำลังรบของกรุงศรีอยุธยา ณ ทุ่งดอนแก้ว (ปัจจุบันคือ พื้นที่อำเภอแม่ริม เชียงใหม่) เพื่อปรับกำลังรบให้มีความพร้อมครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเคลื่อนทัพเข้าตีเมืองอังวะต่อไปพร้อมกับกองทัพพระเจ้าเชียงใหม่ เพื่อเทิดพระเกียรติแห่งพระมหาวีรกรรม และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้าพระองค์นั้นที่ทรงห่วงใยในความเป็นอยู่ของพสกนิกร และทรงปกป้องเกียรติภูมิของล้านนาไทยเมืองเชียงใหม่มิให้ถูกข่มเหงรังแก ตลอดจนเพื่อเป็นสรรพสวัสดิ์พิพัฒน์มงคลอันยิ่งใหญ่ของเมืองเชียงใหม่
กองพลทหารราบที่ ๗ โดย พลโทสุทัศน์ จารุมณี ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพบก ขณะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ ๗ มีแนวคิดว่า สมควรมีพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประดิษฐานไว้หน้ากองพลทหารราบที่ ๗ ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่าได้สักการะบูชา ตลอดจนเป็นแหล่งเรียนรู้ แก่นักเรียน นักศึกษา และแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อันมีคุณค่ายิ่งยืนนานสืบไป เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๘ พลเอกอุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์แท่นฐานการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๘ พลตรีคู่ชีพ เลิศหงิม รองแม่ทัพภาคที่ ๓ เป็นประธานในพิธียกเสาเอก ณ กองพลทหารราบที่ ๗ อีกครั้งหนึ่ง
ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ที่ผ่านมา พลตรีอุทัย ชัยชนะ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ ๗ ในฐานะประธานจัดงานทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อนำรายได้ทั้งหมดสมทบทุนการก่อสร้างพระบรมราชานึสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยมีสมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส โดยมี พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ประธานชมรมอนุศาสนาจารย์ , พล.อ. สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงศึกษาธิการในนามผู้แทนผู้บัญชาการทหารบกเป็นประธานฝ่ายฆราวาส คุณวิชัย – เอมอร ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท คิงส์เพาเวอร์จำกัด และครอบครัว ดร.อุดรพันธ์ จันทรวิโรจน์ ประธานสโมสรฟุตบอลเชียงใหม่เอฟซี ซึ่งบริจาคเงินเฉลิมพระราชบารมีจำนวนหนึ่งในนามประธานดำเนินงานจัดผ้าป่าเฉลิมพระราชบารมีในพื้นที่ภาคเหนือพร้อมด้วยผู้มีจิตศรัทธาทั้งบรรพชิต และคฤหัสถ์ร่วมพิธีจำนวนมาก
ทั้งนี้ หากมีท่านผู้มีจิตศรัทธาที่จะทำบุญเพื่อร่วมสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรสมเด็จ มหาราชฯ สามารถติดต่อได้ที่ กองพลทหารราบที่ ๗ ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ ๐๕๓ ๒๙๘๘๑๗ หรือโอนเข้าบัญชี “กองทุน พล.ร.๗ สร้างอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เลขที่บัญชี 515-0-35755-5 ธนาคารกรุงไทยสาขาแม่ริม จ.เชียงใหม่
อนึ่ง พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรสมเด็จ มหาราชพระองค์นี้มีความสูงจากฐาน ๑๗.๕ เมตร ออกแบบโดย อาจารย์ธวัชชัย ศรีสมเพ็ชร ประติมากรที่มีหลักวิชาการและมีความสามารถในการสร้างงานอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่เป็นประติมากรที่มีความรอบรู้ในเรื่องประติมากรรมสมัยใหม่ เข้าใจและมีความสามารถการสร้างสรรค์ เนื้อพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ หล่อด้วยโลหะสัมฤทธิ์บรอนซ์รมสีน้ำตาลอ่อน อาจารย์ธวัชชัย ศรีสมเพ็ชร จบสาขาจิตรกรรม ประติมกรรมและภาพพิมพ์ จากมหาวิทยาลัยศิลปากร