แพไม้สักปริศนาลอยเกยตื้นน้ำสองสีแม่เมย-สาละวิน 105 ท่อน ทหารพราน36 รุดตรวจสอบ เผยไม่ใช้ไม้ตัดฝั่งไทย หลังพบร่องรอยและข้อมูลจากประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อวันที่ เวลาประมาณ 14.00 น.ได้รับการเปิดข้อมูลจาก พันเอกสุจินต์ ทรัพย์สิน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ได้ปล่อยแถวออกทำการรีเอ็กซเรย์การลักลอบตัดไม้ทำลายป่าในแนวเขตริ่มน้ำสาละวินซึ้งเป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายในการป้องปราบและเฝ้าระวัง ล่าสุด เจ้าหน้าที่ พบแพไม้ปริศนาลอยเกยตื้นบริเวณแม่น้ำสองสีบรรจบกันระหว่างแม่น้ำเมย กับ แม่น้ำสาละวิน หมู่บ้านสบเมย หมู่ที่ 4 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ตรวจแล้วเป็นไม้สักท่อนขนาดต่าง ๆ ปะปนกันผูกเป็นแพขนาดคละกัน รวม 105 ท่อน ยาวเฉลี่ยประมาณ 3 – 6 เมตร หน้ากว้าง 70 – 120 เซนติเมตร มูลค่ายังประมาณไม่ได้ จากการเข้าตรวจสอบเบื้องต้นในพื้นที่ ได้มีการประสานกับทางเจ้าหน้าที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งยอมรับว่า แพไม้สักจำนวนดังกล่าว ถูกตัดในฝั่งประเทศพม่า และ ยังตรวจพบร่องรอยการชักลากไม้ลงมาจากป่าฝั่งประเทศเพื่อนบ้านด้วย ก่อนผูกติดเป็นแพปล่อยไหลลอย โดยไม่พบผู้ควบคุมแพแต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของแพขนาดใหญ่มาอย่างต่อเนื่อง แต่ที่ผ่านมาพบผูกติดอยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ ต้องปล่อยให้มีการไหลลอยและรอจังหวะน้ำพัดพามาเกยตื้นฝั่งไทย เบื้องต้นชุดปฏิบัติการ ทพ.3602 บ้านสบเมย ได้นำแพไม้สักท่อนดังกล่าวฯ มาเก็บไว้ที่ท่าน้ำบ้านสบเมย พร้อมทั้งได้แจ้งให้ จนท.ป่าไม้ดำเนินการชักลากและตรวจยึด เพื่อส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สบเมย หาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ทหารเตรียมสนธิกำลังวางแผนร่วมกันอย่างเข้มงวดต่อการลักลอบลำเลียงไม้เถื่อนไหลลอยลงสู่ลำน้ำสาละวินมากขึ้น เนื่องจากขบวนการมอดไม้ถูกกดดันจากการเปิดยุทธการไล่ล่าทวงผืนป่าคืน ช่วงนี้จึงหันมาอาศัยสายน้ำเพื่อเป็นตัวช่วยล่องแพไม้เถื่อน และได้ระบุว่า ไม้สักที่ลักลอบผูกเป็นแพ หากหลุดรอดออกไปได้ ไม้ดังกล่าวจะถูกนำขึ้นฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อส่งเข้าไปยังโรงงานแปรรูปไม้ ซึ่งถูกระบุอยู่ลึกเข้าไปในฝั่งพม่า หลังจากนั้นไม้ท่อนทั้งหมดจะถูกแปรรูปเป็นสิ่งประดิษฐ์เฟอร์นิเจอร์ ส่งย้อนกลับเข้ามา ส่งขายในฝั่งไทย ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก
ปรีชาชัย มโนวงค์ ทีมข่าวแม่สะเรียง รายงาน