วันนี้ 19 พ.ย.57 เวลาประมาน 15.00 น. พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รอง ผบช.ภ.5 พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เจ้าหน้าที่ตำรวจสากลจากประเทศจีน พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันทราย ,สืบสวนจังหวัดเชียงใหม่,สืบสวนภาค5, เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เข้าทำการตรวจสอบบ้านเลขที่ 215 ม.15 ต.ป่าไฝ่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ หลังจากสืบทราบว่าเป็นศูนย์ของแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ชาวจีน
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่บ้านหลังดังกล่าว พบว่าเป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่ 8 ห้องนอน 3 ห้องนั่งเล่น และห้องครัว พร้อมเนื้อที่กว่า 3 ไร่ จากการตรวจค้นภายในบ้านพบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ รวมเซฟเวอร์ 100 ชุด โทรศัพท์บ้านที่ต่อเชื่อมกับคอมพิวเตอร์กว่า 200 เครื่อง บัตรเอทีเอ็มของประเทศจีนกว่า 200 ใบเอกสารสลิปบัตรอื่นๆและบัญชีรายชื่อ เบอร์โทรประชาชนชาวจีนนับแสนคน และเอกสารอื่นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวชาวจีน ทั้งหมด 15 คนและชาวไต้หวันอีกกว่า 34 คน รวมผู้ต้องหาทั้งหมด 49 คน โดยแก๊งค์ดังกล่าวมีหัวหน้าแก๊งค์ชื่อนายจาง อายุ 45 ปีเป็นชาวไต้หวัน ขณะเข้าตรวจค้นจับกุมไม่อยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ
พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า การบุกเข้าจับกุมครั้งนี้เนื่องจากทางการไทยเราได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศจีน ว่ามีแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ โทรมาหลอกลวงประชาชนชาวจีน ให้ทำการโอนเงิน โดยอ้างว่าเป็นหนี้ธนาคาร หนี้บัตรเครดิต ซึ่งมีประชาชนหลงเชื่อกว่า 100 คน มูลค่าความเสียหายมากกว่า 300 ล้านบาท เพราะมีผู้เสียหายบางคนที่ถูกหลอกเงินมากกว่าคนละ 2 ล้านหยวน และมีผู้เสียหายคนอื่นๆ อีกจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนได้รับการแจ้งความร้องทุกข์ไว้และทำการสืบสวนจนพบว่าปลายทางโทรศัพท์มาจากบ้านหลังดังกล่าวในจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเราบุกเข้ามาตรวจค้นและจับกุม โดยแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้นายจาง จะพาผู้ต้องหาทั้งหมดนี้เข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย และเอามาซุกซ่อนไว้ที่คฤหาสน์หลังนี้ซึ่งเช่าไว้ในราคาเดือนละ 85,000 บาท และให้ทุกคนทำงานวันละ 14 ชั่วโมง ส่วนนายจาง นั้นเท่าที่ทราบยังคงกบดานอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเราจะติดตามจับกุมตัวมาให้ได้โดยเร็วต่อไป ส่วนผู้ต้องหาทั้งหมดเราจะได้ทำการส่งตัวให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศจีนดำเนินการต่อไป.
ขอบคุณภาพจากคุณเพียงตะวัน กลุ่มอินทรีขาว
ทีมข่าว cmskynews รายงาน
