ท่านผู้อ่านมักจะได้ยินและเข้าใจกันว่า เวลามีเหตุทำร้ายร่างกายกันในบ้านเวลาตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุแล้วเข้าระงับเหตุ และแจ้งศูนย์วิทยุสื่อสารเพียงว่า กรณีเป็นเหตุภายในครอบครัว แต่เหตุดังกล่าวมีความละเอียดอ่อนซับซ้อนเกี่ยวกับบุคคลใกล้ชิดภายในครอบครัว ทางผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการรับแจ้งไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปกครอง หรือ ตำรวจ เห็นว่าเป็นเรื่องครอบครัวจึงแยกย้ายกันไปเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ประกอบกับชาวบ้านส่วนใหญ่ยังไม่ทราบว่ามี “ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 ” จึงไม่ดำเนินการร้องทุกข์
“บุคคลในครอบครัว” หมายความว่า คู่สมรส คู่สมรสเดิม ผู้ที่อยู่กินหรือเคยอยู่กินฉันสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรส บุตร บุตรบุญธรรม สมาชิกในครอบครัว รวมทั้งบุคคลใด ๆ ที่ต้องพึ่งพาอาศัยและอยู่ในครัวเรือนเดียวกัน ซึ่งเมื่อมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัวแล้ว ผู้เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการไปในเคหสถานหรือสถานที่ที่เกิดเหตุเพื่อสอบถามผู้กระทำความรุนแรงในครอบครัว ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัวหรือบุคคลอื่นที่อยู่ในสถานที่นั้นเกี่ยวกับการกระทำที่ได้รับแจ้ง รวมทั้งให้มีอำนาจจัดให้ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัวเข้ารับการตรวจรักษาจากแพทย์ และขอรับคำปรึกษาแนะนำจากจิตแพทย์ นักจิตวิทยา หรือนักสังคมสงเคราะห์ ในกรณีที่ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัวประสงค์จะดำเนินคดี ให้จัดให้ผู้นั้นร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา แต่ถ้าผู้นั้นไม่อยู่ในวิสัยหรือมีโอกาสที่จะร้องทุกข์ได้ด้วยตนเองให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นผู้ร้องทุกข์แทนได้ ถ้ามิได้มิได้มีการร้องทุกข์ภายในสามเดือนนับแต่ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัวอยู่ในวิสัยและมีโอกาสที่จะแจ้งหรือร้องทุกข์ได้ ให้ถือว่าคดีเป็นอันขาดอายุความ แต่ไม่ตัดสิทธิผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัวหรือผู้มีส่วนได้เสียจะร้องขอคุ้มครองสวัสดิภาพตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว
เนื่องจากความผิดเกี่ยวกับการกระทำความรุนแรงภายในครอบครัวนี้ ผู้ใดกระทำความผิดฐานกระทำการอันเป็นความรุนแรงในครอบครัว ผู้นั้นกระทำความผิดฐานกระทำความรุนแรงในครอบครัว ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหกพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความกันได้ แต่ไม่ลบล้างความผิดประมวลกฎหมายอาญา หรือกฎหมายอื่นมาตรา หากการกระทำความผิดดังกล่าวเป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ให้ความผิดดังกล่าวเป็นความผิดอันยอมความได้
หากมีการร้องทุกข์ภายในอายุความพนักงานสอบสวนต้องทำการสอบสวนโดยเร็วและส่งตัวผู้กระทำความผิดและสำนวนการสอบสวนพร้อมทั้งความเห็นไปยังพนักงานอัยการเพื่อฟ้องคดีต่อศาลเยาวชนและครอบครัวภายใน 48 ชั่วโมง ในส่วนของการพิจารณาในศาลนั้นจะมุ่งเน้นในทางแก้ไขฟื้นฟูก่อนโดยมีนักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ เข้าร่วมตั้งแต่การสอบสวนจนถึงการเข้าสู่ระบบของการแก้ไขฟื้นฟู จะเห็นได้ว่าพระราชบัญญัตินี้ให้ความคุ้มครองทุกคนในครอบครัวที่ถูกกระทำความรุนแรง
เนื่องจากปัญหาการแก้ไขการใช้ความรุนแรงในครอบครัวมีความละเอียดอ่อนซับซ้อนเกี่ยวพันกับบุคคลใกล้ชิด มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากการทำร้ายร่างกายระหว่างบุคคลโดยทั่วไป การใช้มาตรการทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาบังคับกับการกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัวจึงไม่เหมาะสม เนื่องจากกฎหมายอาญามีเจตนารมณ์ที่จะลงโทษผู้กระทำความผิดมากกว่าที่จะแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดหรือปกป้องคุ้มครองผู้ที่ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว
ดังนั้น การมีกฎหมายคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว จึงมีความเหมาะสมกว่าการใช้กระบวนการทางอาญา เพราะสามารถกำหนดรูปแบบวิธีการ และขั้นตอนที่มีลักษณะแตกต่างจากการดำเนินคดีอาญาโดยทั่วไป โดยให้ผู้กระทำความผิดมีโอกาสกลับตัวและยับยั้งการกระทำผิดซ้ำ รวมทั้งสามารถรักษาความสัมพันธ์อันดีในครอบครัวไว้ได้ ประกอบกับเด็ก เยาวชน และบุคคลในครอบครัว มีสิทธิได้รับความคุ้มครองโดยรัฐจากการใช้ความรุนแรงและการปฏิบัติอันไม่เป็นธรรม นอกจากนั้นผู้ถูกกระทำความรุนแรงยังได้รับการช่วยเหลือจากรัฐเป็นเงินช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ ได้แก่ ค่าทดแทนความเสียหายเบื้องต้นสำหรับเงินหรือทรัพย์สินใด ๆ ที่ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัวสูญเสียไป โดยผลของการกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว และให้หมายความรวมถึงรายได้ที่สูญเสียไป ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายในการหาที่อยู่ใหม่ และค่าใช้จ่ายอื่นที่จำเป็นด้วย อย่ามองข้ามว่าเป็นแค่เพียงเรื่องครอบครัวเฉยๆ .
ด้วยความปรารถนาดีจาก
ทค. เกียรติศักดิ์ ช่อเจริญ 085-8631441