กรณี เมื่อ 6 เม.ย.2559 เวลาประมาณ 12.30 น.ได้มีคนร้ายทราบต่อมาว่า ชื่อนายหลู่ เสาร์คำ ถือบัตรบุคคลต่างด้าว(ไทยใหญ่) ได้เข้าไปทำทีซื้อสร้อยคอทองคำ หนัก 2 บาท ที่ร้านทองเสือมังกร ตลาดวโรรส ต.ช้างม่อย อ.เมืองเชียงใหม่ พอพนักงานร้านเผลอ ได้คว้าสร้อยคอทองคำดังกล่าววิ่งหนี เข้าไปในตลาด มีพลเมืองดี จำนวน 2 คน ชื่อ นายจักรกฤษ คำหยาด อาย24 ปีและนายไพจิตร คำหยาด อายุ 64 ปี สองคนพ่อลูกเข้าขัดขวาง นายหลู่ฯคนร้ายได้ใช้อาวุธมีดแทงจนได้รับบาดเจ็บ ถูกนำส่ง รพ.ลานนา นายหลู่ฯคนร้ายได้ขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป และระหว่างต่อสู้กับผู้บาดเจ็บ นายหลู่ฯได้ทำถุงย่ามใส่เอกสารตกหล่น ทำให้ทราบชื่อที่อยู่ของนายหลู่ฯ
พงส.สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับ และศาลจังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกหมายจับ นายหลู่ เสาร์คำ ข้อหา ชิงทรัพย์เป็นเหตุทำให้มีผู้ได้บาดเจ็บ ตามหมายเลขที่ 219/2559 ลง 6 เม.ย.2559
และเมื่อ 6 เม.ย. 2559 เวลา 22.00 น.ชุดสืบสวนสภ.เมืองเชียงใหม่ นำโดย พ.ต.ท.บัณฑิต จิตต์ภาคภูมิ รอง ผกก.สสฯ พ.ต.ท.นิติพันธ์ สังขกร สว.สส.ฯกับพวก ได้ติดตามจับกุม นายหลู่ฯ ได้ที่ ริมถนนโชตนา ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยของกลาง
1.รถจักรยานยนต์ ยี่ฮ้อฮอนด้า สีม่วง หมายเลขทะเบียน งลต 144 เชียงใหม่
2.เสื้อยืดแขนสั้น สีเขียว ด้านหน้ามีข้อความ special force(สวมใส่ขณะเกิดเหตุ)
3.กระเป๋าเป้ สีน้ำเงิน-ดำ ยี่ห้อ the mouth form (ขณะหนีวางที่ตระกร้าหน้ารถ ภาพจากกล้องวงจรปิด)
4.นาฬิกาข้อมือสีเงิน(ภาพจากกล้องวงจรปิด)
โดยกล่าวหาว่า ชิงทรัพย์เป็นเหตุทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ตามหมายศาลจังหวัดเชียงใหม่ นายหลู่ฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และสร้อยคอทองคำที่ผู้ต้องหาชิงไปนั้น ผู้ต้องหาอ้างว่าเอาเสื้อห่อไว้ที่รั้วบ้านที่แถวหมู่บ้านไฮแลนด์วิลเพลส ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ แต่เมื่อพา จนท.ตร.ไปพบแต่เสื้อไม่พบทองคำของกลางแต่อย่างใด
