ภาพจากกล้องวงจรปิด ตามโครงการ Police Eyes ของ พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 เป็นพยานหลักฐานสำคัญ ใช้แกะรอย ติดตามจับกุมคนร้ายวิ่งราวทรัพย์ นักท่องเที่ยว
จากกรณีเมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2559 เวลา 19.30 น. ได้มีคนร้าย ชาย หญิง 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์ เป็นพาหนะวิ่งราวทรัพย์ นักท่องเที่ยวหญิงชาวเนเธอร์แลนด์ เหตุเกิดที่ ถนนพระปกเกล้า ซอย 7 (หลังโรงเรียนอนุบาลเชียงใหม่) นั้น
เมื่อวันที่ 30 มี.ค.2559 เวลา 20.00 น. โดยการอำนวยการของ พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่,พ.ต.อ.วีระยุทธ ประสพโชคชัย ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด กก.4 บก.ทท.เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บก.ตม. นำโดย พ.ต.ท.อุดม สุวรรณเลขา รอง ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บก.ตม.ได้ร่วมกันจับกุมตัว
1. นายเฉลิมชัย นวนสุวรรณ อายุ 24 ปี เลขที่ 53 หมู่ที่ 20 ต.มิตรภาพ อ.แกดำ จว.มหาสารคาม
2. น.ส.ปัทมากร แม้นอินทร์ อายุ 21 ปี เลขที่ 7/2 หมู่ที่ 14 ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่
พร้อมด้วยของกลาง
1. รถจักรยานยนต์ คันที่ใช้เป็นพาหนะในการกระทำผิด
2. โทรศัพท์ มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอส สีขาวจำนวน 1 เครื่อง (ของผู้เสียหาย)
3. หนังสือเดินทาง(ของผู้เสียหาย) จำนวน 1 เล่ม
4. เสื้อ กางเกงยีนส์ รองเท้า กระเป๋าสะพาย ของผู้ต้องหาทั้ง 2 ซึ่งปรากฏในภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะร่วมกันกระทำผิด
โดยวันที่เกิดเหตุขณะที่ผู้เสียหายขี่รถจักรยานมาตามถนนพระปกเกล้าซอย 7 ได้มีคนร้ายจำนวน 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมาทางด้านหลังของผู้เสียหายแล้ววิ่งราวเอากระเป๋าสะพายของผู้เสียหายที่วางไว้ตะกร้าหน้ารถจักรยานที่ผู้เสียหายขี่มาแล้วพากันหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนฯ จึงได้เร่งรีบสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้เรื่อยมาโดยประสานเทศบาลนครเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ร่วมกันตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด
จึงได้เก็บรวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายเดินทางมาก่อนและหลังก่อเหตุไว้ประกอบการสืบสวนติดตามเรื่อยมา ต่อมาในวันที่ 30 มี.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนที่ได้รับคำสั่งให้เฝ้าจุดได้พบเห็นรถจักรยานยนต์ พร้อมผู้ขับขี่ ผู้ซ้อนท้ายตำหนิรูปพรรณตรงกับคนร้ายขับขี่วนเวียนอยู่บริเวณหน้าวัดเชียงมั่น จึงได้ติดตามรถคันดังกล่าวไป ต่อมารถคันดังกล่าวได้ขับไปตามถนนช้างม่อย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอทำการตรวจสอบตรวจค้นโดยก่อนทำการตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์ให้กับบุคคลทั้งสองดูจนเป็นที่พอใจจึงเริ่มทำการตรวจค้นผู้ชายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจค้นตัว ส่วนผู้หญิงให้นำสิ่งของที่มีอยู่ในตัวและกระเป๋าสะพายออกมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบ เมื่อนายเฉลิมชัย ฯ และ น.ส.ปัทมากร ฯ รู้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเรื่องที่ทั้งสองร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดยืนยัน จึงได้รับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ของผู้เสียหายตามวันเวลาเกิดเหตุไปจริง โทรศัพท์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบก็เป็นของผู้เสียหายรายดังกล่าว โดยหนังสือเดินทางได้นำไปทิ้งไว้ริมถนนเขตพื้นที่อำเภอหางดง จากนั้นได้นำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปชี้จุดที่ร่วมกันวิ่งราวกระเป๋าพร้อมทรัพย์สินของผู้เสียหายและบริเวณที่ทิ้งเอกสารและหนังสือเดินทางบริเวณริมถนนตำบลสันผักหวาน อ.หางดง จว.เชียงใหม่ พบว่ายังมีหนังสือเดินทางที่ถูกทิ้งอยู่ที่เดิม จึงได้ทำการตรวจยึดไว้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวบุคคลทั้งสองมาที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนขยายผลทำให้ทราบว่าผู้ต้องหาสองสามีภรรยาได้เคยก่อเหตุ ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ นักท่องเที่ยวชาว อเมริกัน ในท้องที่ สภ.ช้างเผือก จึงได้แจ้ง พ.ต.ต.ชัยยะ จันเต็บ สว.สอบสวน สภ.ช้างเผือก มาดำเนินการต่อไปและอยู่ระหว่างขยายผลถึงคดีอื่นๆ


