กำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่รวมตัวหน้าที่ว่าการอำเภอแม่อาย มอบหนังสือผ่านสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ จังหวัดเชียงใหม่ถึงผู้ว่าฯขอให้ย้ายนายอำเภอแม่อายออกจากพื้นที่
เมื่อวันที่ 3 ก.ย.58 เวลา 09.00 น. ที่หน้าที่ว่าการอำเภอแม่อาย จ.เชียงใหม่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน แพทย์ประจำตำบล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ อ.แม่อาย ราว 300 คน รวมตัวปฏิเสธรับคำสั่งนายอำเภอแม่อาย เพื่อยื่นหนังสือผ่านสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ เชียงใหม่ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ขอให้ย้ายนายอำเภอแม่อายออกจากพื้นที่ เผยตั้งแต่ย้ายเข้ามาปฎิบัติหน้าที่ในพื้นที่ไม่เคยให้คำปรึกษาปัญหาเรื่องใดเลยให้แก่กำนันผู้ใหญ่บ้านทั้งที่เป็นลูกน้องในสายบังคับบัญชา กรณีที่มีปัญหาหรือข้อสงสัยในการปฏิบัติหน้าที่หรือข้อราชการ ครั้งไปสอบถามนายอำเภอจะได้คำตอบว่า “กรณีนี้ไม่ใช่เรื่องของนายอำเภอ เป็นเรื่องของกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ เป็นเรื่องของพวกคุณ ให้ไปดำเนินการเอง” พร้อมกันนี้ยังมีออกกริยาและพูดท้าทายให้พวกเรากำนันผู้ใหญ่บ้านฯ อำเภอแม่อาย ไปร้องต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และอธิบดีกรมการปกครอง
ซึ่งวันนี้เป็นวันประชุมประจำเดือนของกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ อ.แม่อาย ผู้ร่วมชุมนุมทั้งหมดต่างแต่งเครื่องแบบตามตำแหน่งหน้าที่ของตน รวมตัวกันหน้าลานที่ว่าการอำเภอแม่อายนำโดยนายสัญญา อิ่นแก้ว ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ อำเภอแม่อาย กำนันตำบลแม่นาวาง พร้อมด้วยกำนันอีก 5 ตำบลประกอบด้วย นายสมชิตร์ เงาส่อง กำนันตำบลสันต้นหมื้อ นายสิงห์วัน นันตา กำนันตำบลบ้านหลวง นายวัลลภ มหาวรรณ์ กำนันตำบลแม่อาย นายอินทา ทองน้อย กำนันตำบลแม่สาว และ นายทะนง คิดห้วน กำนันตำบลมะลิกา พร้อมกันนี้ได้ร่วมกันยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยยื่นผ่านนายกมลศิษฐ์ โรจนธนวิภัช นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเดินทางจาก อ.หางดง จ.เชียงใหม่ มารับหนังสือด้วยตนเอง เพื่อขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่พิจารณาโยกย้ายนายอำเภอแม่อายออกจากพื้นที่
โดยเนื้อความในหนังสือที่ผ่านสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ จังหวัดเชียงใหม่ ปรากฎดังนี้ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้ นายธีระ เหลียวสุธี มาดำรงตำแหน่ง นายอำเภอแม่อาย ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2558 แต่เริ่มปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเดือนมิถุนายน 2558 เนื่องจากต้องเข้าอบรมหลักสูตรผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทย พอเริ่มกลับมาปฏิบัติหน้าที่ การทำงานกลับไม่เหมือนกับนายอำเภอท่านก่อนๆ ที่เคยปฏิบัติอันเป็นปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้คำปรึกษากับกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ ซึ่งมีฐานะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา กรณีที่มีปัญหาหรือข้อสงสัยในการปฏิบัติหน้าที่หรือข้อราชการ ครั้นไปสอบถามนายอำเภอจะได้คำตอบว่า “กรณีนี้ไม่ใช่เรื่องของนายอำเภอ เป็นเรื่องของกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ เป็นเรื่องของพวกคุณ ให้ไปดำเนินการเอง” พร้อมกันนี้ยังมีออกกริยาและพูดท้าทายให้พวกเรากำนันผู้ใหญ่บ้านฯ อำเภอแม่อาย ไปร้องต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และอธิบดีกรมการปกครอง
ที่สำคัญเมื่อครั้งเริ่มมารับตำแหน่งมักประกาศเสมอว่า “ผมไม่เคยอยากมาอยู่แม่อาย ใครไม่รู้ย้ายผมมาอยู่ที่นี่” พอเริ่มปฏิบัติหน้าที่จึงไม่เคยให้คำปรึกษาแก่ผู้ใดทั้งสิ้น ประโยคที่ยกมาอ้างเป็นประจำคือ “ไม่ใช่หน้าที่ของนายอำเภอ” ที่กระทบกับทั้งการปฏิบัติหน้าที่และการให้การบำบัดทุกข์ บำรุงให้แก่ราษฎรของกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ อำเภอแม่อาย คือกรณีที่ตัวแทนราษฎรซึ่งเป็นเกษตรกรในพื้นที่ตำบลสันต้นหมื้ และตำบลแม่นาวาง อ.แม่อาย ราว 10 กว่าคนขอเข้าพบเพื่อปรึกษาหารือเรื่องปัญหาน้ำท่วมนาข้าวของเกษตรกร ซึ่งมีปัญหามาจากคลองส่งน้ำของชลประทาน กลับได้รับคำตอบจากนายอำเภอท่านนี้ว่า “ไม่ใช่เรื่องของนายอำเภอ ให้ไปฟ้องชลประทานกันเอาเอง” โดยไม่ลงไปตรวจพื้นที่ที่เป็นสาเหตุของปัญหาด้วยตัวเองเลย เป็นประเด็นหนึ่งที่ทำให้ภาพลักษณ์ในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่อำเภอแม่อาย ซึ่งฝ่ายปกครองท้องที่อำเภอแม่อายเพียรปฏิบัติมาโดยตลอดตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย เสื่อมเสียเป็นอันมาก ทั้งที่นายอำเภอแม่อายที่มารับตำแหน่งแต่ละท่านก่อนหน้านี้พยายามที่ทำงานเพื่อราษฎรในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่ราษฎรอำเภอแม่อายอย่างต่อเนื่องเสมอมา ตัวอย่างชัดเจนที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในอดีตขณะที่ที่ท่านอธิบดีกรมการปกครอง นายกฤษฎา บุญราช ครั้งที่ดำรงตำแหน่งนายอำเภอแม่อาย ได้ลงในทุกพื้นที่ของอำเภอแม่อายร่วมกับกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ อำเภอแม่อาย ร่วมกัน “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้แก่ราษฎร กระทั่งผลงานเป็นที่ประจักษ์ ถึงกับท่านนายอำเภอได้รับรางวัล “นายอำเภอแหวนเพชร”
การทำงานของกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ ซึ่งเป็นผู้ปกครองท้องที่ โดยสายการบังคับบัญชา นายอำเภอเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง การที่ผู้บังคับบัญชาโดยตรงปฏิเสธที่จะให้คำปรึกษา ไม่เคยยื่นมือให้ความช่วยเหลือในการปฏิบัติหน้าที่ หนำซ้ำยังปฏิเสธที่จะให้คำปรึกษา เหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการปฏิบัติงานของพี่น้องกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ อำเภอแม่อายโดยรวม แม้แต่การจะแต่งตั้งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่เคยปฏิบัติหน้าที่ผ่านมาแล้ว 5 ปี และครบวาระ นายอำเภอแม่อายคนนี้ยังให้ผู้ใหญ่บ้านที่ส่งรายชื่อให้แต่งตั้งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านอีกรอบ ส่งข้อมูลประวัติของอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านรายนั้นไปสอบประวัติอาชญากรรมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้แล้วเสร็จก่อนจึงจะแต่งตั้งให้ให้เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านอีกรอบ ส่อให้เห็นชัดดังคำกล่าวภาษาชาวบ้านที่ว่า “ลูกพี่ไม่เชื่อใจลูกน้อง” ซึ่งหมายความว่า นายอำเภอแม่อายคนนี้ไม่เคยสนใจใส่ใจในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใต้บัญชา
การที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่นายอำเภอแม่อายท่านนี้มารับตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่นายอำเภอแม่อาย ยังมีอีกเรื่องราวอีกมากที่กระทบกระเทือนต่อผู้ใต้บังคับบัญชา กระทั่งทั้งกับการจัดงานวันกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ ของอำเภอแม่อายที่ผ่านมาก ที่นายอำเภอถึงกับเอ่ยปากว่า “จะนิมนต์ทำไมระดับเจ้าคณะตำบล เป็นพระที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องสวดก็ได้ แค่เอามานั่งเฉยๆ” ทั้งที่เคยปฏิบัติมาในแต่ละปีสำหรับการจัดงานวันกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ อำเภอแม่อาย จะนิมนต์พระที่ร่วมประกอบพิธีในระดับเจ้าคณะตำบลเป็นประจำ ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติเช่นเดียวกันกับทุกอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ปฏิบัติเป็นประจำทุกปี
ตามที่ยกกล่าวอ้างมาตั้งแต่ต้น ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ อำเภอแม่อาย ซึ่งมีสมาชิกประกอบด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน แพทย์ประจำตำบล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ทั้ง 345 คน ใคร่ขอความอนุเคราะห์จากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยผ่านทางสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ จังหวัดเชียงใหม่ โปรดพิจารณาโยกย้ายนายอำเภอแม่อาย นายธีระ เหลียวสุธี ออกจากพื้นที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ “การบำบัดทุกข์ บำรุงสุข” แก่พี่น้องประชาชนชาวแม่อายทุกหมู่เหล่าได้ดำเนินไปตามนโยบายของรัฐบาล ของกระทรวงมหาดไทย ของจังหวัดเชียงใหม่ ดั่งที่เคยดำเนินการแต่ก่อนหน้านี้
วัชรพงษ์ มีทรัพย์กว้าง / รายงาน