เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2558 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค.5 พล.ต.โท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค.5 นายวิชัย ไชยมงคล ผอ.ปปส.ภาค.5 พอ.ทวี ชาลีวรรณ์ รอง.ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามเพื่อเอาชนะยาเสพติดชายแดนไทยภาคเหนือ ( ศอ.ปส.ชน.) ร่วมกันแถลงข่าว โดยนำนายลีเย มาเยอะ นายอาชา แลเซอ และนายอาจา มาเยอะ ทั้ง 3 คนเป็นราษฎรอำเภอเมือง จ.เชียงราย เป็นชาวเขาเผ่าอาข่า ของกลางยาบ้าจำนวน 6,000 เม็ด ตั้งข้อหามียาเสพติดประเภทหนึ่งไว้ในการครอบครองเพื่อจำหน่าย
นอกจากนั้นยังมีของยาบ้าที่ยึดได้จากในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงรายเนื่องจากกลุ่มการค้ายาเสพติดถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร และปปส.อย่างหนักจึงได้นำยาเสพติดไปทิ้งไว้ตามจุดต่าง ๆ ดังนี้วันที่ 10 มิ.ย.58 สภ.เมืองเชียงรายยึดยาบ้าได้จำนวน 700,000 เม็ดบริเวณทางเข้าทุ่นนา บ้านโล๊ะป่าห้า ต.แม่ข้าวต้ม อ.เมือง จ.เชียงราย วันที่ 14 มิ.ย.58 ยึดได้จำนวน 100,000 เม็ดบริเวณถนนหมู่บ้านท่าสาย ต.แม่สาย อ.เมือง จ.เชียงราย และวันที่ 18 มิ.ย.58 สามารถตรวจยึดย้าบ้าได้จำนวน 2,400,000 เม็ด ยาไอซ์ 10 กิโลกรัม บริเวณบ้านต้นยาง ต.บัวสลี อ.แม่ลาว จ.เชียงราย
ขณะเดียวกันสำหรับในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธเชียงใหม่ ทำการกวาดล้างกลุ่มค้ายารายย่อยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน ของกลางยาไอซ์ 68 กรัม ยาบ้า 260 เม็ดฝิ่นดิบ 1 ห่อและอาวุธปืนแบบไทยประดิษฐ์ 1 กรบอก
สรุปผลการกวาดล้างยาเสพติดพื้นที่ตำรวจภูธรภาค.5 จับผู้ต้องหาได้ 5 คน ของกลางยาบ้าจำนวน 3,206,260 เม็ด ยาไอซ์ 10.68 กิโลกรัม ฝิ่นดิบจำนวน 1 ห่อ รถยนต์ 1 คัน มอเตอร์ไซด์ 2 คัน อาวุธปืน 1กระบอก
พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ เปิดเผยว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ของกลางจำนวนมากในครั้งนี้ เนื่องจาก เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง ตำรวจ ทหาร ปปส.ตลอดจนได้รับความร่วมมือจาก ตำรวจ ปปส.ของประเทศเมียร์ม่า จึงทำให้ขบวนการค้ายาเสพติดต้องนำยาบ้าไปทิ้งไว้ตามจุดต่าง ๆ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดได้จำนวนมากในแต่ละครั้ง เนื่องจากขบวนการค้ายาเสพติดเหล่าถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย
ด้านนายวิชัย ไชยมงคล ผอ.ปปส.ภาค.5 เปิดเผยว่า ยาบ้าที่เจ้าหน้าที่ไทยได้ยึดได้ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากมาจากแถบชายแดนประเทศเมียร์ม่า ซึ่งมีชนกลุ่มน้อยอยู่หลายเผ่าพันธุ์ ขณะเดียวกันในช่วงนี้การเมืองทางพม่าไม่ค่อยปกติ โดยเฉพาะในเขตโรงงานผลิตและแหล่งพักยาเสพติดตามแนวชายแดน ช่วงเวลาดังกล่าวปรากฏว่าทหารเมียร์ม่า ได้สู้รบกับกลุ่มไว้ตอนใต้ และต่อสู้กับกลุ่มโกก้า โดยทั้งสองกลุ่มนี้เป็นพื้นที่ผลิตยาบ้าเป็นรายใหญ่ เมื่อมีสงครามระหว่างรัฐบาลพม่าแล้ว กลุ่มเหล่านี้จึงได้ลำเลียงยาเสพติดเพื่อไปขนไว้ในที่ปลอดภัย บางส่วนได้ขนมาในเขตพื้นที่ประเทศไทย เนื่องจากขบวนการดังกล่าวได้มีเครือข่ายไว้ทั่วทั้งในพม่าและประเทศไทยเช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกันในระยะหลังมานี้ ปปส.ไทยได้ประสานเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกับ ตำรวจ ปปส.ของพม่า ทำให้ฝ่ายไทยได้จับกุมยาเสพติดเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลพม่าได้ส่งตำรวจ ปปส.จำนวน 1 กองร้อยจากเมืองเนปิดอ ได้มาประจำอยู่ที่ จ.ท่าขี้เหล็กติดกับ อ.แม่สาย จ.เชียงราย จึงทำให้ขบวนการค้ายาเสพติดต้องนำไปพักไว้ตามจุดต่าง ๆ มากขึ้นทุกวัน